กระดุมเสื้อที่ปิดสนิทเหมือนเดิมกลับถูกถอดออกจนหมดและปลดเสื้อตัวนั้นลงไปกองกับพื้น
ชาลีมือไวพอที่จะปลดกระดุมกางเกงของพระพายด้วย และถลกร่นมันลงไปกองกับพื้น
เหลือเพียงกางเกงชั้นในเป็นด่านสุดท้าย ริมฝีปากอุ่นไล่จูบตามพวงแก้มใสของพระพาย
แม้พระพายจะดิ้นชาลีก็ไล่ต้อนจนแก้มแทบช้ำ
“ฮื้อ.. หยุดเลยนะ หยุด!” พระพายร้องห้ามสารพัด
ดันใบหน้าชาลีให้ออกห่าง แกะท่อนแขนที่โอบรัดรอบเอว ทั้งจิกทั้งข่วน
ชาลีจึงเลื่อนมือไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของพระพายผ่านกางเกงชั้นในแทน
“อ..อย่าจับตรงนั้น”
“ทำไม” เสียงทุ้มกระซิบถามข้างใบหูเล็ก
“แล้วจะจับทำไมล่ะ” พระพายหันกลับไปจ้อง
“ก็อยากจับ”
“อย่าสิคุณ หยุดนะ”
เสียงร้องห้ามของพระพายไม่เป็นผล ชาลีเกี่ยวขอบกางเกงชั้นในออก
เขาสัมผัสส่วนอ่อนไหวของพระพายด้วยมือของเขาเองทั้งมือ
ลูบไปที่ส่วนปลายของมันจนพระพายหนีบขาเข้าหากันแน่น ส่งเสียงครางเบาๆผ่านลำคอ
ชายหนุ่มตัวโตขยับเสียดสีร่างกายท่อนล่างของตนเองกับเนื้อนิ่มของพระพาย
พร้อมกับส่งเสียงครางข้างใบหูเล็กไปด้วย
“ท..ทำบ้าอะไรเนี่ย ฮื้ออ” พระพายขยับตัวหนีไม่ได้เลย
ชาลีไล่ต้อนเขาทุกทาง ร่างทั้งร่างของพระพายถูกดันจนชิดผนังห้องน้ำ
ชาลีพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียนในขณะที่มือใหญ่ก็ยังคงทำหน้าที่ปรนเปรอให้พระพายอย่างดี
จนในที่สุดพระพายก็กระตุกกายปลดปล่อยอารมณ์ที่ชาลีปลุกเขาขึ้นมาทุกหยดหยาด
ขาเรียวทั้งสองอ่อนแรงลงจนแทบทรุด แต่ชาลียังคงประคองตัวพระพายเอาไว้
ลำคอขาวมีร่องรอยรักสีจางปรากฏไปทั่ว ดวงตาเรียวจ้องคนตัวโตกว่าพลางใช้ความคิดประมวลผลในสมองไปด้วยว่าตนจะถูกคนตรงหน้าแกล้งอะไรมากกว่านี้อีกไหม
“ผมมาเอาคำตอบ”
“คำตอบ?” พระพายแสร้งแสดงสีหน้างุนงงกับคำพูดของชาลี
แม้ว่าในใจเขาจะรู้ว่าชาลีหมายถึงอะไรก็ตาม
“คิดถึงผมไหม” ดวงตาคมมองไปที่พระพายจดจ้องชนิดที่ว่าตาไม่กระพริบ
ส่วนพระพายก็เอาแต่หลบตามองลงพื้นลูกเดียว ไม่กล้ามองชาลีกลับ
ร่างเปลือยของชาลีแนบสนิทกับร่างของพระพายจากด้านหลังมากขึ้นจนพระพายรู้สึกถึงอะไรต่ออะไรที่กำลังคุกรุ่นด้วยอารมณ์เสียดสีกับก้นของเขา
“ตอบ..”
พระพายเลือกที่จะเงียบไม่กล้าตอบ
ทั้งที่คำว่า ‘ไม่’ คำเดียวก็ไม่ได้พูดยากอะไรนัก แต่เพราะคนตัวเล็กลังเลกับคำตอบอยู่ จะว่าคิดถึงก็คงไม่ถึงขั้นนั้น
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่คิดถึงเลย เพราะที่ผ่านมาในหัวสมองก็ยังมีชาลีมาวนเวียนอยู่
แม้กระทั่งในความฝันคืนก่อนก็ด้วย
“ไม่..”
“ไม่คิดถึงหรอ” ชาลีถามต่อ
“ม..ไม่รู้..” เพราะพระพายก้มหน้ามองพื้นอยู่จึงยากที่จะมองเห็นใบหน้าหล่อที่ผุดรอยยิ้มขึ้นมาจนเห็นลักยิ้มข้างแก้มชัดเจน
ชาลีหอมแก้มพระพายไปทีหนึ่งจนคนโดนหอมต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“แต่ผมคิดถึงคุณนะ”
พระพายพยักหน้ารับ
ใบหูเล็กแสดงสีให้เห็นถึงความเขินอาย แม้ชาลีจะเคยบอกคิดถึงเขาในแชทก็ตาม แต่มันเทียบอะไรไม่ได้เลยกับการได้ยินจากปาก
มันเป็นคำพูดจากคนปากแข็งที่ชอบใช้พูดจาด้วยถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจ และใช้จูบพระพายเป็นอย่างเดียว
ชายหนุ่มผมแดงใช้จังหวะนี้แยกเรียวขาของพระพายเล็กน้อย
จับแกนกลางลำตัวที่คับแน่นสอดแทรกเข้าสู่ช่องทางด้านหลังของพระพายในทันที โดยที่จับช่วงเอวของพระพายเอาไว้เพื่อให้กระแทกเข้าสุดในทีเดียว
จนพระพายสะดุ้งสุดตัวส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บที่แล่นเข้ามาด้วยความไว
ริมฝีปากหยักเข้าครอบครองประคองจูบพระพายทันทีเช่นกัน
กันไม่ให้เสียงร้องดังไปมากกว่านี้และเพื่อไม่ให้พระพายสนใจกับความเจ็บที่กำลังรู้สึกอยู่
ชาลีจูบย้ำ ๆ ขบเม้มริมฝีปากบาง หยอกล้อกับลิ้นเล็กไปเรื่อยด้วยความอ่อนโยน
เขายังคงแช่แกนกายค้างเอาไว้ให้คนตัวเล็กได้ปรับตัวกับความเจ็บปวด
ชาลีเริ่มขยับสะโพกช้า
ๆ โดยที่ริมฝีปากของเขายังคงง่วนอยู่กับการป้อนจูบให้พระพายอยู่ มือเล็กทั้งสองค้ำกับผนังห้องน้ำเพื่อการทรงตัวแต่เขาก็ยังมีชาลีช่วยประคองไว้เช่นกัน
ร่างทั้งสองแนบชิดเข้าหาและเชื่อมสนิทกันอย่างลงล๊อค ท่ามกลางสายน้ำเย็นที่ไหลกระทบกายจากฝักบัวที่ช่วยดับความร้อนระอุของบทรักครั้งแรกในห้องน้ำของคนทั้งสองที่ไม่รู้ว่าจะจบลงในตอนไหน
เสียงครางของทั้งคู่ประสานกันเป็นระยะภายในห้องน้ำแสนแคบ
พระพายตอบสนองสัมผัสของชาลีโดยไม่มีการขัดขืนใดใด แม้ว่าภายในจะแย้งแค่ไหนก็ตาม
แต่การแสดงออกภายนอกกลับไม่เป็นดังใจสั่ง พระพายไม่อยากคิดถึงเหตุผลของการกระทำครั้งนี้
มันไม่ใช่ความรักแน่ เขายังไม่ได้รักชาลีเลยด้วยซ้ำ จะขอโทษว่าเป็นเพราะอารมณ์พาไปก็แล้วกัน..
ตามไปอ่านต่อและติชมกันได้ที่ #ชาลีติดลม นะคะ <3