วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2565

CUT #นัมจาชินกูcb ตอนที่ 32 : ชั้นรักเธอนะ


sds


        “แต่ว่าตอนนี้..” ดวงตาคมก้มมองต่ำไปยังส่วนกลางลำตัวที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยด้วยกามารมณ์

        “คะ? ”

        “ก่อนจะข้ามไปถึงตอนมีลูก กูขอทำลูกก่อนละกัน”

        ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากแล้วโน้มตัวลงไปจูบสัมผัสแผ่วเบาลงบนริมฝีปากสวย ละเมียดละไมอย่างอ่อนโยนแต่ไม่ลืมที่จะสลับกับการบดเบียดที่ร้อนแรง ในจังหวะเดียวกันบุ้งกี๋เองก็ตอบรับสัมผัสของแฟนหนุ่มได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

        คนตัวโตถอดเชิ้ตที่สวมใส่ด้านในสูทออกและโยนมาลงข้างเตียง ตามมาด้วยเข็มขัดกับกางเกงขายาวที่ร่นลงไปกองบนพื้น ก่อนจะโน้มตัวลงมากดริมฝีปากลงบนกลีบปากนุ่มอีกครั้ง

        มือสากลูบไล้ขาอ่อนของคนสวยอีกครั้ง ไล่มือเข้าไปใต้กระโปรงของเดรสตัวสั้นเพื่อเกี่ยวเอาชั้นในลูกไม้ออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะจับท่าทางของบุ้งกี๋ให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียงจะได้สะดวกต่อการรูปซิปด้านหลังเพื่อถอดชุดออก

        “ชั้นรักเธอนะ” ริมฝีปากบางเอ่ยบอกอย่างจริงใจ ก่อนจะจุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปากอีกฝ่าย

        “รักเหมือนกันนะ.. บุ้งกี๋”

        ชัชวาลกดจมูกฝังลงบริเวณต้นคอขาวอีกครั้ง เขาสาละวนกับการเกี่ยวเส้นสายเดี่ยวบนร่างขาวออก จนตอนนี้บุ้งกี๋ไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิดร่างกาย มีเพียงแผ่นซิลิโคนบนเนินอกขาวเท่านั้น

        มือใหญ่วางลงบนความอวบอัดบนหน้าอกและบีบขยำมันเบา ๆ แขนเรียวทั้งสองของบุ้งกี๋ก็โอบล้อมรอบคอของชัชวาลดึงให้เขาเข้ามาใกล้เธอจนเธอ ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยสีแดงพรมจูบลงที่ต้นคอของแฟนหนุ่มด้วย

        ดวงตาคมจ้องมองร่างกายตรงหน้าด้วยความหลงใหล เขาเอื้อมหยิบของจำเป็นตรงข้างเตียงและสวมใส่มันลงบนความเป็นชายที่พร้อมใช้งาน

        “ถ้าเจ็บก็บอกนะ”

        “อ..อื้อ..”

        ริมฝีปากนุ่มไล่จูบตั้งแต่ซอกคอลงมาถึงเนินอกขาว ไม่ลืมที่จะแวะดูดดุนติ่งไตเล็กที่ชูชันอยู่ แต่เมื่อพอใจก็ไล่พรมจูบต่ำลงไปกว่านั้นจนถึงช่วงกลางระหว่างขาทั้งสอง

        ลิ้นหนาละเลงลงบนจุดอ่อนไหวของคนบนเตียงที่นอนบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน แล้วเลื่อนลงไปต่ำกว่านั้นสัมผัสความชื้นแฉะลงบนช่องทางรักที่กำลังกระตุกเมื่อต้องรับกับสัมผัสที่ไม่เคยโดนมาก่อน

        ชัชวาลใช้นิ้วเรียวยาวของตัวเองเข้าช่วยด้วย เขาสอดมันเข้าไปในจุดที่ต้องการแม้ว่าคนถูกกระทำจะร้องออกมาก็ตาม

        “ชั..ชัช ตรงนั้น.. ม..ไม่เอา”

        “ทนอีกหน่อยนะ”

        “อ๊ะ!”

        เมื่อนิ้วที่ชำแรกเข้ามาได้ถอนออก บุ้งกี๋ที่นอนจิกผ้าปูเตียงจนยับก็เหมือนได้พักหายใจอีกครั้ง แต่ทว่า..ดวงตาเรียวรีกลับต้องเบิกกว้างเมื่อแฟนหนุ่มตัวโตจับแยกเรียวขาของเธอออกกว้างและกระชับให้เกี่ยวพันรอบเอวของเขาไว้

        ก่อนจะสอดใส่ความคับตึงเข้ามาในช่องทางที่พึ่งจะใช้นิ้วช่วยไปในทีแรก เล็บยาวทั้งสิบนิ้วก็จิกเข้าตรงท่อนแขนที่มีแต่มัดกล้ามกำยำทันทีเพื่อหาที่ระบายความเจ็บที่เธอได้รับ

        ชัชวาลไม่ลืมที่จะเอียงใบหน้าเข้าหาคนสวยเพื่อจูบปลอบประโลมความเจ็บครั้งนี้ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะผ่านการร่วมรักมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้มันต่างไปจากเดิม เพราะเป็นครั้งแรกที่ชัชวาลเลือกที่จะเข้าช่องทางด้านหลังแทน

        “เจ็บมากไหม” พอเห็นดวงตาเรียวเริ่มรื้นไปด้วยหยาดน้ำตาก็อดสงสารไม่ได้ ชัชวาลรีบถามด้วยความห่วงใย

        คำตอบที่ได้รับเป็นเพียงการพยักหน้าหงึก ๆ ชายหนุ่มตัวใหญ่จึงเลือกที่จะค้างไว้แบบนั้นเพื่อให้แฟนของเขาได้ปรับตัวก่อน..

        แล้วจึงเริ่มขยับในจังหวะที่เนิบนาบผลัดเปลี่ยนกับจังหวะถี่รัวจนเสียงเนื้อบริเวณต้นขาที่กระทบกันดังก้องไปทั่วห้องนอนสี่เหลี่ยม มือเล็กจึงยกมาปิดบังใบหน้าตัวเองด้วยความเขิน

        แต่ชัชวาลก็ขยับมือนั้นออก เขาต้องการที่จะมองใบหน้าของคนรักแบบที่ไม่มีอะไรมากั้น บุ้งกี๋จึงต้องจำยอมนอนมองใบหน้าหล่อที่ขยับตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเขา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทำให้บุ้งกี๋แทบขาดใจตาย

        จนเมื่อร่างใหญ่กระตุกยามเสร็จกิจ ก็มีแต่เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ที่เหงื่อโทรมกาย ชัชวาลเปลี่ยนท่าทางตัวเองลงไปนอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับบุ้งกี๋ และดึงคว้าร่างเล็กให้เข้ามาในอ้อมกอดของเขา

        “กูรักมึงนะบุ้งกี๋ เลิกคิดมากเรื่องนั้นได้แล้ว” ริมฝีปากนุ่มจรดลงบนขมับชื้นเหงื่อของแฟนคนสวย

        “อื้อ..” คนสวยตอบรับเบา ๆ เธอขยับร่างกายให้เข้าไปชิดร่างใหญ่มากกว่าเดิม วาดท่อนแขนเพื่อโอบกอดชายคนรักด้วย

        ดวงตาเรียวเริ่มรู้สึกมองสิ่งรอบตัวเลือนรางจนแทบจะดับสนิทลง เวลาตอนนี้น่าจะลากยาวมาจนถึงตีหนึ่งกว่า ๆ เห็นจะได้ บุ้งกี๋รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะลุกไปชำระล้างร่างกายของตัวเองจึงผล็อยหลับไปเสียดื้อ ๆ

        ปล่อยให้ชัชวาลที่ยังไหวอยู่นอนมองคนสวยหลับ นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ลงมาบังใบหน้าให้ขึ้นไปดังเดิม เขาจูบหน้าผากของเธอเบา ๆ ครั้งหนึ่งก่อนที่จะเป็นฝ่ายจัดแจงทำความสะอาดร่างกายของเขาทั้งคู่ให้สะอาด ถึงบุ้งกี๋จะไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเขามากก็ตาม..



ตามไปอ่านต่อและติชมกันได้ที่จอยลดา #นัมจาชินกูcb นะคะ

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2564

CUT #นัมจาชินกูcb ตอนที่ 17 : ชั้นไม่ถือ

             


            “บุ้งกี๋” เสียงทุ้มกล่าวเรียกเจ้าของใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ ทำเอาเพื่อนคนสวยขนลุกไปทั่วทั้งตัว 

ชัชวาลกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ ก่อนจะกลาวประโยคต่อมาที่ไม่ได้มีเจตนาเป็นประโยคคำถาม “เอากันปะ”

“เดี๋--” ริมฝีปากบางยังอ้าออกไม่เต็มที่กลับถูกช่วงชิงด้วยการป้อนจูบลงมาอย่างหนักหน่วง ชัชวาลไม่ได้ตั้งใจรอฟังคำตอบอยู่แล้ว คนตัวใหญ่ไล่ต้อนและประคองใบหน้าเล็กไม่ให้หลบหนีสัมผัสที่เขากำลังมอบให้ 

มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาที่พึ่งจะส่งให้เพื่อนตัวเล็กสวมใส่ได้ยังไม่ถึงสิบนาที แกะมันออกทีละเม็ดโดยไม่ต้องมองว่าครบหรือยัง แหวกสาบเสื้อให้เผยผิวกายขาวที่เปล่งกระกายแม้มองในความมืด สันจมูกโด่งกดลงไปยังซอกคอขาว ขบเม้มริมฝีปากกับผิวนิ่มอย่างแผ่วเบาและไล่ลงไปยังจุดที่จี้รูปหัวใจซ่อนอยู่ 

ความปวดหนึบบริเวณช่วงกลางลำตัวที่กำลังขยายทำเอาชายหนุ่มรู้สึกขัดใจ เขาเริ่มสาละวนอยู่ที่กระดุมกางเกงของตัวเอง แต่เสียงของเพื่อนตัวเล็กกลับเอ่ยขึ้นมาให้อย่างติดขัดเพื่อให้ชัชวาลได้สนใจ

“อื้อ.. ช..ชัช เดี๋ยวรถเลอะนะ” มือสวยวางบนมือใหญ่ไว้ เธอรู้ดีว่าชัชวาลมีความต้องการอย่างเต็มที่แล้ว และเธอเองก็ไม่ต่างกัน ในเมื่อสถานที่มันค่อนข้างแคบและไม่เป็นใจแบบนี้ ถึงบุ้งกี๋จะรู้อยู่แก่ใจว่าหากจะทำจริง ๆ มันก็ทำได้ แต่เธอก็เลือกที่จะบ่ายเบี่ยง 

“แล้วถ้าที่ห้องล่ะ” ชัชวาลเว้นวรรคให้บุ้งกี๋ได้ลุ้นตาม “กู..ทำได้ปะ” 

ไม่มีเสียงพูดของใครกล่าวขึ้นมาหลังจากนั้น ชัชวาลจะถือว่าเป็นคำตอบที่แทนคำอนุญาตจากเพื่อนคนสวย เขากลับไปนั่งพิงพนักของตัวเอง ขยับเกียร์ให้รถเคลื่อนตัวออกจากจุดจอดมุ่งตรงไปยังหอพักที่ทั้งคู่แชร์ร่วมกัน

ยามที่ร่างทั้งสองเคลื่อนตัวเข้าสู่ภายในห้องพัก คนตัวโตก็อุ้มคนตัวเล็กกว่าลอยหวือขึ้นมาจากพื้นแล้วพาเข้าห้องของตัวเองทางด้านซ้าย ร่างใหญ่วางเพื่อนสนิทลงบนผืนเตียงกว้าง บรรจงป้อนริมฝีปากของตัวเองให้เพื่อนสนิทวนลูปอย่างไม่รู้จบ

เสื้อลูกไม้สีดำถูกถกร่นขึ้นเผยให้เห็นผิวกายขาวที่ซ่อนไว้ ชัชวาลนิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวไม่ได้สวมใส่เสื้อใน บริเวณหน้าอกคู่สวยนั้นมีเพียงสติ๊กเกอร์วงกลมปกปิดยอดปทุมถันไว้เป็นปราการด้านเดียว ทางด้านของบุ้งกี๋เมื่อเห็นว่าร่างกายของเธอกำลังโดนจ้องมองด้วยสายตาคมก็ยกแขนขึ้นมาไขว้ปกปิดไว้ด้วยความเขินอาย

ชัชวาลเห็นดังนั้นจึงจับแขนทั้งสองให้เปิดทางให้ตัวเขาได้เคลื่อนกายโน้มตัวลงไปใกล้ มือสากลูบไปตามส่วนเว้าโค้งของร่างกายจนคนโดนสัมผัสขยับกายหนี ชัชวาลกดริมฝีปากลงไปยังลำคอขาวหอมกรุ่นเพื่อซ้ำรอยเดิมที่ทำไว้ตั้งแต่บนรถให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วลากริมฝีปากลงไปจนถึงช่วงอก 

เขากัดไปที่สติ๊กเกอร์สีเนื้อบนหน้าอกของเพื่อนตัวเล็กพอให้มันเผยอเปิดขึ้นมาจะได้เอามันออกได้อย่างง่ายดาย เมื่อไม่มีด่านปราการปกปิดบนร่างกายแล้ว ริมฝีปากหยักก็อ้าออกพอให้ลิ้นหนาได้ออกมาเชยชิมเม็ดเล็กและฐานสีน้ำตาลอ่อนบนหน้าอกได้อย่างง่ายดาย จนคนโดนกระทำดิ้นบิดเร่าผสมผสานกับเสียงครางที่ออกมาดังลั่นโดยไม่รู้ตัว

ชัชวาลไม่หยุดเพียงเท่านี้ เขายังทำแบบเดิมให้กับอีกข้างเพื่อให้เท่าเทียม ก่อนที่ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของตัวเองโยนมันทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ใยดี แล้วจัดการกับกระดุมกางเกงยีนส์ขาสั้นสีซีดเหนือถุงน่องตาข่ายให้พ้นทางเหมือนเสื้อของเขา

“ชัช! ม..ไม่เอา” 

บุ้งกี๋ร้องลั่นเมื่อรู้สึกถึงขอบกางเกงชั้นในที่กำลังโดนถกลงไปตามหลังกางเกงของเธอ มือสวยจับไปที่มือใหญ่ของเพื่อนสนิทเพื่อห้ามปราบ

คนตัวโตกว่ายังคงดื้อแพ่งไม่ยอมทำตามในสิ่งที่คนสวยขอ เขาดึงมันออกไปเร็วกว่าเดิม มือเล็กจึงเปลี่ยนมาบดบังส่วนกลางลำตัวของเธอไว้แทนในช่วงที่ชัชวาลลุกขึ้นไปค้นของบางอย่างที่ตู้ข้างเตียง

ชายหนุ่มตัวสูงกลับมาพร้อมกล่องถุงยางและขวดเจลสีใสในมือ เขาขยับตัวไปแทรกกลางระหว่างเรียวขางามทั้งสอง จับมือคู่สวยให้พ้นทางเพ่อที่จะได้มองเห็นความงามตรงหน้าได้ชัดเจน

เสียงหอบหายใจของบุ้งกี๋ดังถี่ขึ้นเพราะความตื่นเต้น ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะรู้สึกอย่างไร ในหัวสมองมันว่างเปล่าไปหมด แต่แล้วเสียงครางก็หลุดออกมาจากปากอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความชื้นแฉะที่กำลังสัมผัสอยู่ตรงกลางลำตัว

ท่อนแขนแข็งแรงจับเรียวขาของเพื่อนคนสวยไว้แน่นไม่ให้ดิ้นหนีสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้ ในส่วนของบุ้งกี๋เมื่อไร้ซึ่งหนทางหนี เธอจึงเลือกที่จะหาอะไรบางอย่างมาคว้าเอาไว้ ในตอนแรกเล็บสีชมพูจิกลงบนผ้าปูเตียงจนแทบเกร็ง แต่แล้วเมื่อมองดูมือตัวเองอีกทีมันกลับขยุ้มลงบนกลุ่มผมสีบลอนด์สว่างของชายหนุ่มซะอย่างนั้น

“มึง.. พร้อมยัง” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ แต่ก็ไม่รอฟังคำตอบเหมือนทุกครั้ง จัดการขยับตัวเองเตรียมความพร้อมเสร็จสรรพ “ถ้าเจ็บ.. ถ้ามึงไม่ไหวก็บอกกูนะ”

คนสวยแทบมุดหน้าลงบนหมอนกับคำพูดที่ได้ยิน บุ้งกี๋หลับตาลงยามที่คนตัวโตเริ่มไสกายเข้าหา เสียงเล็กแผดร้องออกมาบ่งบอกถึงความเจ็บร้าวแม้ว่าก่อนหน้านี้ชัชวาลจะเตรียมความพร้อมให้แล้วก็ตาม แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับของจริงที่ได้สัมผัส

นิ้วเรียวจิกเล็บลงบนแผ่นหลัง กอดคอคนตัวใหญ่กว่าไว้แน่นเป็นที่ยึดเหนี่ยว หยดน้ำสีใสที่ไหลออกมาเพราะความเจ็บโดนชัชวาลใช้ริมฝีปากจูบซับมันไปจนเหือดแห้ง ชายหนุ่มเริ่มขยับกายในจังหวะเนิบนาบที่เรียกเสียงร้องครางให้กับคนโดนกระทำได้ 

“กูไปช้า ๆ นะ ถ้ามึ--” ชัชวาลยังกล่าวไม่จบ ริมฝีปากบางก็ช่วงชิงคำพูดไปเสียแล้ว บุ้งกี๋รุกจูบกลับคนตัวโตกว่าดูบ้าง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้จูบเก่งจนถึงขั้นช่ำชองก็ตาม แต่ชัชวาลก็พอใจที่ได้รับมัน

ทั้งสองบดเบียดกายเข้าหากันในจังหวะที่รุนแรงมากขึ้น ในทีแรกชัชวาลก็ตั้งใจว่าเขาจะปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ แต่เมื่อได้ยินคำขอของบุ้งกี๋ที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะมีสติดีอยู่หรือเปล่าตอนที่พูดออกมา ชัชวาลก็ไสกายหนักหน่วงขึ้นตามคำขอเสียจนต้องผลัดเปลี่ยนถุงยางไปถึงสองรอบด้วยกัน

เมื่อมาถึงรอบที่สามคนตัวเล็กเริ่มมีอาการอ่อนล้าเต็มทีหลังเสร็จกิจ ชัชวาลเองก็ไม่ต่างกัน เขาประคองกอดคนตัวเล็กกว่าไว้จนหลับสนิท แล้วจึงลุกขึ้นไปยังห้องน้ำตระเตรียมอุปกรณ์มาเพื่อชำระล้างร่างกายให้คนที่ผล็อยหลับไป แม้ว่าเจ้าตัวจะร้องอย่างขัดใจเมื่อโดนผ้าหมาด ๆ เช็ดไปตามผิวกายก็ตาม




ตามไปอ่านต่อและติชมกันได้ที่จอยลดา #นัมจาชินกูcb นะคะ


วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563

CUT #น้ำเต้าหู้ร้านหมวย ตอนที่ 46 : chinese new year again!



ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“อาบน้ำเสร็จยังหมวย มีอะไรรึเปล่า เราเป็นห่วงนะเห็นว่าเข้าไปนานแล้ว” แป๊กได้ยินเสียงชาญผ่านประตูห้องน้ำจึงหันไปมองว่าตนล๊อคกลอนประตูดีแล้วหรือไม่ 
ก๊อก ก๊อก!
“หมวย เป็นอะไรไหม เปิดประตูให้เร--” สิ่งที่ชาญเห็นอยู่ตรงหน้าทำให้เสียงของเขาขาดไปช่วงหนึ่ง “..หน่อย” ชายหนุ่มเบิกตากว้างกับภาพที่เห็นจนแทบจะถลน ปล่อยคำท้ายประโยคออกมาอย่างอ้อยอิ่ง และกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่
ภาพตรงหน้าของชาญตอนนี้มันกำลังทำให้เขาหัวใจสูบฉีดเลือดและเต้นเร่าๆ อย่างไม่เป็นจังหวะ ผิวขาวของแป๊กที่ตัดกับเชือกสีดำร้อยถักในสไตล์จีนบวกกับเสื้อซีทรูและกางเกงชั้นในสีแดงยิ่งทำให้ชาญรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก
สายตาคมไล่มองต้นคอขาวลงไปสะดุดกับแผ่นอกบางประดับเม็ดทับทิมสีสวยที่เห็นทะลุผ่านผ้าซีทรู ก่อนจะไล่ลงไปด้านล่างมองความสั้นของชุดที่แทบจะไม่ปิดแม้กระทั่งขาอ่อน แม้ว่าแป๊กจะอยู่ในสภาพยั่วยวนอารมณ์แต่ใบหูเล็กนั้นขึ้นสีจัดด้วยความเขิน ทั้งมือที่กำลังกำแน่นนั่นก็ด้วย
“ชุดนี้ที่ชาลีเคยส่งให้อั๊วน่ะ ค..คือ ลื้อเคยบอกว่าอยากเห็น อั๊วก็เลย..เฮ้ย! ” แป๊กร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆ ตัวเขาก็ลอยหวือขึ้นจากพื้นเพราะโดนชาญอุ้มพาดบ่าพาเดินออกไปนอกห้องน้ำ มือใหญ่ฟาดลงบนเนื้อก้นอวบแรงๆ ไปทีหนึ่งจนแป๊กตะโกนลั่นกว่าเดิม “โอ๊ย!! อั๊วเจ็บนะ ปล่อยอั๊วลงเลย ปล่อยนะ”
ชาญทำตามคำขอของแป๊ก เขาปล่อยร่างเล็กลงบนเตียงนอนขนาดกว้าง แล้วขึ้นไปคร่อมทับกดข้อมือทั้งสองข้างของแป๊กชิดติดกับพื้นเตียง “ใครสอนให้ยั่วกันแบบนี้” เขากดจมูกลงที่ซอกคอขาวสูดกลิ่นหอมกรุ่นจากสบู่จางๆ ที่ติดผิวเนียนนิ่มจนแป๊กต้องย่นคอหนี แต่ดิ้นได้ลำบากนักเพราะชาญคร่อมทับกักทางหนีทุกทาง
“อื้อ..อั๊วจักจี้..ฮื้ออ..ชาญ” คนตัวเล็กที่โดนดักทางได้แต่ดิ้นไปมาใต้ร่างใหญ่ที่คร่อมทับตน “อ..อย่าสิ..ชาญ หยุดก่อน งื้อ..” นอกจากจะขยับย่นคอหนีสันจมูกโด่งๆ นั่นแล้ว แป๊กยังต้องหันใบหน้าหนีสลับข้างไปมาเพราะโดนชาญไล่หอมแก้มไม่หยุด ก่อนที่จะประกบทาบริมฝีปากลงมา “อื้ออ..”
ริมฝีปากบางตอบรับสัมผัสได้เป็นอย่างดี เขาผ่านการเรียนรู้ในเรื่องการจูบมาพอสมควรแล้ว ชาญปล่อยข้อมือทั้งสองข้างของแป๊กให้เป็นอิสระ คนตัวเล็กจึงย้ายมาโอบรอบคอคนตัวสูงกว่า เอียงใบหน้ารับสัมผัสที่มอบให้กันอย่างถนัดมากยิ่งขึ้น
กว่าจะถอนริมฝีปากออกจากกัน น้ำสีใสก็เชื่อมออกมาระหว่างอวัยวะทั้งสอง มือเล็กเช็ดคราบที่มุมปากของตนออก นอนมองใบหน้าชายหนุ่มที่เขากำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ด้วยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
“ยั่วเราอีกแล้ว”
“อั๊วแค่มองหน้าลื้อเ— อื้อ...” ยังพูดไม่จบประโยคก็โดนชาญกดริมฝีปากลงมาจูบอีกรอบ มือใหญ่เลื่อนไปหลังคอคนตัวเล็กเพื่อปลดเชือกที่ผูกรั้งชุดซีทรูสีแดงเอาไว้ อีกมือหนึ่งก็ลูบขาอ่อนขาวเนียนน่าสัมผัสเร้าอารมณ์คนตัวเล็กให้เริ่มไต่ระดับพุ่งสูงไปพร้อมกันกับเขา
“หมวยแม่ง..” ชาญมองแฟนหนุ่มตัวเล็กอย่างหลงใหลราวกับต้องมนตร์ก่อนที่จะพูดสิ่งที่คิดไว้ “น่าเอาว่ะ โอ๊ย! ” แล้วก็โดนฝ่ามือเล็กตะปปเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายเต็มแรง
“ชาญ! ทำไมพูดจาลามกแบบนี้” แป๊กดุคนตัวโตกว่าที่พูดจาทะลึ่งใส่เขาหลังจากที่ตนตบหน้าลงโทษไปด้วยความเขิน
“ความจริงทั้งนั้น” มือใหญ่กุมแก้มข้างที่โดนตบ ชาญระบายยิ้มขี้เล่นส่งไปให้คนใต้ร่าง ก่อนจะก้มลงซุกไซ้ไปตามซอกคอของแป๊กเหมือนเดิม จนไม่มีเสียงพูดใดใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากทั้งสอง มือสากไล้ตามผิวกายขาวสอดเข้าไปใต้ผ้าซีทรูเลื่อนขึ้นไปจนสัมผัสกับติ่งไตเล็กบนแผ่นอกบาง
ลิ้นหนาโลมเลียมันผ่านผ้าซีทรูที่กั้นขวางไว้ ไม่นานก็ครอบริมฝีปากทับลงไปและออกแรงดูดเลียจนเกิดเสียง ส่งผลให้กายเล็กขยับดิ้นไปมาด้วยความเสียวยิ่งกว่าโดนสัมผัสแบบไม่มีอะไรมาขวางการสัมผัสเสียอีก
“อ..อ๊ะ.. ชาญ..อย่าดูด อื้ออ อย่าดูดนม” แป๊กพยายามดิ้นหนีต่อสัมผัสของแฟนหนุ่ม ริมฝีปากบางร้องครางออกมาในขณะที่กระสับกระส่าย
นิ้วมือใหญ่ของชาญสอดเข้ามาในปากของแป๊ก คมเขี้ยวเล็กกัดเพื่อระบายความเสียวซ่าน สภาพของแป๊กในตอนนี้กระตุ้นอารมณ์ดิบของชาญได้เป็นอย่างดี ผ้าซีทรูผืนบางถูกโยนลงบนพื้นห้องอย่างไม่มีชิ้นดี ก่อนจะตามด้วยเสื้อกล้ามของคนตัวโต
แป๊กเหลือเพียงกางเกงชั้นในสีแดงชิ้นจิ๋วที่ปิดบังร่างกายอยู่ ในขณะที่ชาญยังคงมีกางเกงบ๊อกเซอร์ขาสั้น แต่ถึงชาญจะแต่งตัวมิดชิดเพียงใด ขนาดของแกนกายที่คับตึงจนนูนขึ้นจากบ๊อกเซอร์ที่อำพรางไว้ ยิ่งมองก็ไม่ต่างอะไรจากไม่ใส่ด้วยซ้ำไป มือใหญ่ของชาญสัมผัสถูไถแก่นกายภายใต้กางเกงในสีแดง แกล้งคนตัวเล็กให้บิดเร่าๆ ด้วยความเสียวเพราะไม่มีแรงมากพอจะขัดขืน
“อื้ออ..ชาญ” ชั้นในสีแดงถูกเกี่ยวร่นลงไปจนถึงข้อเท้า ชาญดึงออกทั้งที่มันยังม้วนขดเป็นเกลียวพร้อมกับโยนทิ้งที่พื้นเตียง คนตัวโตกว่าขยับเรียวขางามให้อ้าออกเป็นสัญลักษณ์ตัวเอ็ม และแยกออกกว้างมากขึ้นเมื่อเขาขยับตัวไปซุกอยู่ตรงช่วงนั้น
ใบหน้าหล่อซุกลงตรงระหว่างขาและสื่อสารกับแป๊กด้วยสัมผัสทางจากริมฝีปากนุ่ม ชาญไล่เลียสัมผัสกับส่วนกลางลำตัวของคนตัวเล็กกว่าเพื่อปลุกอารมณ์ให้เตรียมพร้อม แม้ว่าตัวเขาเองจะพร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อมแล้วก็ตาม ยังไงการเร้าอารมณ์ให้คู่รักมีความสุขไปด้วยตลอดการมีสัมพันธ์ทางกายกัน ก็เป็นหน้าที่ที่ชาญปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอ
ความเสียววาบที่แล่นผ่านร่างกายทำให้แป๊กแอ่นกายเข้าหาสัมผัสที่ชาญมอบให้ เอวบางยกขึ้นจากพื้นเตียงแอ่นเข้าหาชาญมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่ออารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นกำลังไต่ระดับขึ้นไปใกล้ถึงขีดสุด ชาญก็ถอนริมฝีปากออกมาเสียดื้อๆ แล้วส่งยิ้มมุมปากให้แป๊กที่นอนหอบหายใจและกระตุกเกร็งร่างกายค้างจนขาสั่น ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้แป๊กใจสั่น “ขึ้นให้เราหน่อยดิ”
“ละ..แล้ว แล้ว” ดวงตาเรียวมองด้วยแววตาหยาดเยิ้ม ขยับริมฝีปากจะถามอะไรบางอย่างกับชาญ
“ทำไมเหรอ”
“ขึ้นให้แล้ว อั๊ว จ..จะได้อั่งเปาไหม..”
ความเงียบเข้าครอบงำไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ชาญจะระเบิดเสียงขำออกมาลั่นห้อง “ฮ่าๆ หมวย ฮ่า.. โอ้ย ทำไมต้องตลก..อยากได้อั่งเปาขนาดนั้นเลยหรอ” อารมณ์ที่กำลังค่อยๆ ปะทุในช่วงแรกกลับหดหายไปด้วยความไว ชาญไม่หลงเหลืออารมณ์อยากกินหมวยขี้ยั่วอีกแล้ว ตอนนี้ขอให้เขาได้ขำก่อน
“ก็ ก็ลื้อบอกอั๊วเมื่อปีที่แล้วอะ ถ้าใส่ชุดให้ดูจะให้อั่งเปา อั๊วจำนะ! ”
“อย่าบอกนะว่าที่ใส่ชุดนี้เพราะอยากได้อั่งเปา” ชาญเลิกคิ้วถามด้วยความสนใจ จนได้รับคำตอบกลับมาเป็นการพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ ชายหนุ่มถึงกับกุมขมับ “หมวยเอ้ย..เกือบโดนเรากินแล้วรู้ไหม ทีหลังอย่าแต่งตัวยั่วกันแบบนี้สิ”
แป๊กขยับตัวเอี้ยวไปหยิบผ้าห่มที่กองขยุ้มเป็นก้อนมาห่มทับตัวเองด้วยความหนาว เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็โดนชาญถอดทิ้งอย่างไม่ไยดี ไหนจะโดนปลุกอารมณ์ขึ้นมาแล้วหยุดกลางคันอีก เสียงเล็กบ่นงุ้งงิ้งออกมาใต้ผ้าห่มแต่ดังพอที่ชาญจะได้ยิน ชายหนุ่มตัวโตจึงจัดการบางอย่างกับตัวเองให้พร้อมก่อนจะแทรกตัวเองเข้ามาในผ้านวมที่แป๊กห่มคลุมตัวเองไว้
“มากอดทำไม ไม่ต้องมายุ่งเลย”
“โอ๋ๆ ไม่งอนเราสิหมวย” ชาญวาดวงแขนโอบรอบตัวแป๊กแล้วดึงเข้ามากอดจนจมอก ไหนจะไล่หอมแก้มนิ่มของคนในอ้อมกอดจนแป๊กดิ้นหนีไม่หยุด
“อั๊วไม่ให้หอม ไม่ให้กอดด้วย” แป๊กยังคงดิ้นหนีอยู่อย่างนั้น สักพักก็หยุดค้างนิ่งไปเพราะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันแข็งชันดุนอยู่บริเวณเอวของเขา “นี่ลื้อ..”
“ขึ้นให้เราได้ยังอะ รับรองเลยว่าได้มากกว่าอั่งเปาแน่”
“ทะลึ่ง!! ”
“ว่าคนอื่นแต่ตัวเองก็เอาเอวมาสีของเราจนตั้งเนี่ย” ชาญแกล้งงับใบหูเล็กที่ขึ้นสีจากความเขิน “รู้ทันหรอกนะ..ตัวแสบ”
ในจังหวะที่แป๊กหันหน้ามามองชาญก็ประคับประคองใบหน้าหวานให้รับสัมผัสจากริมฝีปากของเขา ริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกันครั้งแล้วครั้งเล่า ชาญไม่เคยเบื่อสักนิดที่จะได้ลิ้มรสหวานจากริมฝีปากนิ่มของแป๊ก ออกแนวโหยหาความนุ่มนิ่มนี้บ่อยครั้งที่แป๊กเผลอด้วยซ้ำ
มือสากลูบวนไปมาที่บั้นท้ายงอนงามก่อนจะแกล้งฟาดให้แป๊กสะดุ้งแล้วออกแรงบีบเค้นเนื้อนิ่มเต็มมืออย่างมันเขี้ยว นิ้วเรียวยาวสอดเข้าช่องทางรักที่รอการมาเยือน ความยาวของนิ้วที่ขยับเป็นใบเบิกทางนั้นโดนเข้ากับจุดกระสันภายในจนเสียงหวานครางลั่น
ชาญปัดผ้าห่มที่คลุมร่างเขาทั้งสองออกให้พ้นทาง ชายหนุ่มจัดท่าให้เรือนร่างเล็กนอนตะแคง ส่วนเขาชันตัวขึ้นนั่งตะแคงและใช้จังหวะสอดชำแรกแกนกายเข้าไปยังช่องทางที่พร้อมเต็มที่ แช่ค้างเอาไว้จนแป๊กปรับตัวได้จึงเริ่มขยับเอวเพื่อกระแทกน้ำหนักเป็นจังหวะที่เนิบนาบ
มือใหญ่ยึดเอวคนตัวเล็กไว้มั่น แล้วเริ่มเร่งจังหวะการกระแทกมากขึ้นจนเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องผสานกับเสียงครางไม่เป็นภาษาของแป๊ก และเสียงครางอย่างพอใจในลำคอของชาญ
ใบหน้าหวานซุกลงกับหมอนใบใหญ่และกัดหมอนใบนั้นไว้เพื่อกันเสียงไม่ให้ดังไปมากกว่านี้ บางทีก็เกรงใจเพื่อนสนิทที่นอนห้องติดกับชาญเหมือนกันที่ต้องมารับรู้เรื่องระหว่างเขากับชาญแทบจะตลอดทุกเทศกาลที่ปรากฏบนปฏิทิน
ชายหนุ่มตัวโตเอนตัวลงนอนตะแคงและกอดแป๊กให้แนบชิดกายแล้วขยับสะโพกให้กระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างต่อเนื่อง มือข้างที่ว่างก็สาละวนอยู่กับการสัมผัสรูดรั้งแกนกายเล็กของแป๊กให้เสร็จสมไปพร้อมกันกับเขา
จังหวะการขยับสอดใส่ที่เข้าสุดออกเกือบสุดของชาญทำให้หัวสมองแป๊กแทบจะขาวโพลน เขารู้สึกตัวลอยไปเลยกับการกระทำในครั้งนี้ ขนาดยังไม่แต่งงานกันชาญยังเล่นงานแป๊กหนักจนตัวช้ำ หากว่าแต่งงานแล้วเข้าเรือนหอด้วยกัน แป๊กจะได้นอนพักบ้างไหม
แป๊กคาดการณ์ได้เลยว่าค่ำคืนนี้ยังคงอีกยาวไกล ชาญคงไม่ปล่อยให้เขาได้นอนง่ายๆ แน่นอน ไม่รู้จะโทษใครดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ จะโทษชาลีที่ส่งชุดมาให้ โทษตัวเองที่ไม่ยอมทิ้งชุดแล้วยังเอามาใส่โชว์ หรือจะโทษชาญที่หื่นจนหน้ามืดตามัวจ้องจะจับเขากินไม่หยุดแบบนี้
เฮ้อ.. หมวยล่ะเพลีย

ตามไปอ่านต่อและติชมกันได้ที่จอยลดา #น้ำเต้าหู้ร้านหมวย นะคะ

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2562

CUT #ชาลีติดลม ตอนที่ 48 : แมวน้อยที่น่าหลงใหล





คนตัวโตช้อนตัวพระพายอุ้มท่าเจ้าสาวเดินไปที่เตียงนอน เขาวางร่างเล็กลงบนเตียงขนาดใหญ่ ก่อนจะพลิกให้คว่ำหน้าลง และสอดแขนไปช้อนร่างพระพายให้อยู่ในท่าคุกเข่าชันตัวขึ้น
สันจมูกโด่งกดลงบริเวณพวงแก้มขาว ไล่ลงมาบริเวณซอกคอ มือทั้งสองข้างของชาลีเริ่มอยู่ไม่สุขเขาไล่สัมผัสหน้าท้องเนียนเลื่อนขึ้นไปจนถึงหน้าอก หยอกล้อกับยอดประทุมสีสวย จนพระพายส่งเสียงร้องออกมา
“เป็นแมวต้องร้องยังไงครับ..” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูเล็กเมื่อเห็นว่าพระพายยังร้องครางปกติอยู่
“อ..อ๊ะ.. เมี้ยว..” ส่งเสียงออกไปใหม่อย่างน่าอาย พระพายไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบนี้
ชาลีไล้มือไปตามส่วนเว้าโค้งของคนตัวเล็กกว่า เขาขบกัดสร้างรอยรักไว้บริเวณหัวไหล่มน ก่อนจะเริ่มพรมจูบไล่ลงมาตามแนวกระดูกสันหลังของพระพายและต่ำลงไปเรื่อย ๆ จวนจะถึงเนื้ออวบนิ่มเด้ง เขาถอดผ้าขนหนูออก โยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ก่อนที่เรียวลิ้นอุ่นนุ่มจะเกร็งขึ้นมาและชำแรกเข้าสู่ปากช่องทางรักสีหวานตรงหน้าทันที
“อ๊า.. ช..ชาลี”
มือสากขยำเนื้อก้นของพระพายที่อวบอัดจนเต็มไม้เต็มมือ ในขณะให้สัมผัสสุดวาบหวามไปด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ลิ้นของตัวเองในการเตรียมตัวให้พระพาย ชาลีเพียงแค่อยากลองดูเท่านั้น ว่าระหว่างนิ้วกับลิ้นของเขา แบบไหนจะทำให้พระพายเสียวซ่านถึงใจได้มากกว่ากัน
แล้วก็ค้นพบว่าลิ้นของเขานี่แหละถึงใจที่สุด..
พระพายขยำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ ส่งเสียงร้องครางไปทั่วห้อง พยายามจะดิ้นหนีต่อต้านสัมผัสที่ชาลีมอบให้ แต่ชาลีก็คว้าสะโพกของเขาไว้แน่นจนไม่สามารถดิ้นหนีไปไหนได้ จึงต้องยอมต่อสัมผัสที่ทรมานต่อจิตใจของตัวเองต่อไปจนกว่าชาลีจะปล่อยให้เขาเป็นอิสระ
จนในที่สุดชาลีก็ยอมปล่อย แล้วเดินไปเปิดลิ้นชักที่เขาเก็บอุปกรณ์สำหรับเป็นหางแมวออกมา พร้อมเจลหล่อลื่นขวดหนึ่ง พระพายมองตามสิ่งนั้นพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ หางแมวที่ชาลีหยิบออกมาเป็นพวงขนนุ่มฟูสีดำ ไม่ได้มีเชือกสำหรับผูกเอวยึดไว้เหมือนที่พระพายเคยเห็น แต่กลับเป็นบางสิ่งที่เอาไว้สอดใส่เข้าไปทางด้านหลังของเขาแทน
ชาลีเปิดฝาขวดเจลหล่อลื่นและชโลมใส่มือของเขาจนชุ่ม ก่อนจะนำไปละเลงตรงปากช่องทางที่กระตุกรอด้วยความตื่นเต้น นิ้วที่หนึ่งสอดเข้าไปสัมผัสกับผนังอ่อนนุ่ม ตามด้วยสองและสามตามลำดับจนพระพายโก้งโค้งบดสะโพกเข้าหานิ้วเหล่านั้น
“จะใส่หางแล้วนะครับ” ชาลีโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างใบหูเล็ก เขาถอนนิ้วทั้งสามออกแล้วแทนที่ไปด้วยการสอดใส่แทงเหล็กที่ยึดกับพวงหางนุ่มไว้ ดันเข้าไปจนสุดในครั้งเดียว..
"อ๊า!!" พระพายสะดุ้งตัวโยน ร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในตัวเขา สัมผัสของมันช่างต่างกับความเป็นชายของชาลีอยู่มากโข ไม่ได้ทำให้พระพายรู้สึกดีเลยสักนิด มันแข็งกระด้างและเย็นวาบอยู่ข้างใน
“ไหนลองร้องแบบแมวสิครับ” ชาลีแกล้งจับส่วนโคนของแท่งเหล็กนั่นกดเข้าไปย้ำลึกกว่าเดิม
“ม..เมี้ยว อ๊า เมี๊ยว.. อื้อ..” ดวงตาเรียวฉ่ำเยิ้มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา ในทีแรกเขาก็ว่ามันดูไม่ค่อยน่าสนุกเท่าไรนัก แต่พอชาลียิ่งย้ำสัมผัสของมันเข้ามาลึก พระพายก็รู้สึกว่ามันไม่ได้แย่ เขาเหมือนจะชอบมันด้วยซ้ำ แต่ก็ยังคงชอบน้อยกว่าของชาลีอยู่ดี
พระพายจับข้อมือของคนตัวโตกว่าเพื่อห้ามไม่ให้ชาลีกดแท่งนั่นเข้ามาลึกกว่านี้ ร่างเล็กกลับตัวหันหน้าเข้าหาชาลี ปลดผ้าเช็ดตัวสีเข้มให้ลงไปกองที่พื้น เพราะชาลียืนอยู่ปลายเตียงจึงเป็นตำแหน่งที่พอเหมาะพอดีกับการที่พระพายจะปรนเปรอให้คนรักด้วยริมฝีปากเล็กของตัวเอง
ความเป็นชายของชาลีที่เริ่มแข็งขึงขึ้นมาบ้างโดนคนตัวเล็กคว้าจับและใช้มือสาวรูปตามความยาวด้วยจังหวะเนิบช้า ลิ้นเล็กเลียหยอกล้อบริเวณส่วนปลายของมัน ออกแรงดูดเบา ๆ และเริ่มครอบครองเข้าสู่โพรงปากของตัวเองจนเกือบจะสุดโคน
ส่วนชาลีก็เอื้อมมือลูบตามแผ่นหลังขาวเนียนลงไปยังบริเวณที่เขาใส่หางให้พระพาย ออกแรงกดย้ำแท่งเหล็กที่เชื่อมหางขยับวนไปมาให้พระพายเสียวซ่านจนร้องครางอู้อี้ในขณะที่ปากไม่ว่าง และสายตาคมยังสังเกตเห็นว่าพระพายใช้มือข้างที่ว่างรั้งรูดแกนกายของตัวเองไปด้วย
และเขายอมให้พระพายทำแบบนั้นไม่ได้..
ชาลีเปลี่ยนมาประคองใบหน้าหวานดันให้ออกห่างจากส่วนกลางลำตัวของเขา แล้วพลิกให้พระพายนอนหงายราบไปบนเตียง ขายาวคุกเข้าขึ้นเตียงตามไปหาร่างของพระพายด้วย ชาลีจับแกนกายของตัวเองจ่อไว้ที่ปากของพระพาย และพระพายก็อ้าปากรับอย่างยินดี
เมื่อพระพายยอมให้ปากทำให้เขาขนาดนี้ ชาลีจะยอมให้พระพายใช้มือประเปรอตัวเองทำไมล่ะ?
ร่างใหญ่โน้มกายเข้าหาร่างกายขาวเนียนตรงหน้า พรมจูบย้ำบริเวณหน้าท้องขาวไปถึงท้องน้อย และคว้าจับแกนกายของพระพายเข้าสู่โพรงปากของเขาบ้าง จนภายในห้องมีแต่เสียงโลมเลียของกันและกันสลับไปมา
มือซุกซนของพระพายไล้ไปตามลอนกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ดูแข็งแรง ทำให้ชาลีเสียววูบวาบไปทั่วตัว คนตัวเล็กผลักร่างคนตัวโตกว่าให้พลิกไปนอนข้างกายเขา ชาลีจึงขยับตัวไปนั่งพิงหมอนที่หัวเตียงแทน เพื่อรอดูว่าพระพายจะทำอะไรเขาต่อไป
ลิ้นเล็กเลียบริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้องของชาลีขึ้นมาจนถึงหัวนมสีเข้ม พระพายอ้าปากกัดเต็มแรงตรงกล้ามอกแน่น ๆ จนเป็นรอย ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนที่จะซุกไซ้ไปที่ซอกคอของชาลี จนหูแมวสีเข้มถูไถไปกับสันกรามของใบหน้าหล่อ
“เหมียว..” ส่งเสียงร้องของแมวเพื่อออดอ้อนคนตัวโตกว่าก่อนที่จะยื่นใบหน้าเข้าไปหาและกดริมฝีปากบดจูบส่งให้ชาลีจูบตอบตน พอชาลีเริ่มตอบรับสัมผัสพระพายก็ถอนริมฝีปากหนีออกมาดื้อ ๆ แล้วแกล้งกัดริมฝีปากล่างของชาลีเป็นการหยอกล้อ
ลมหายใจอุ่นร้อนของชาลีเริ่มเป็นจังหวะแรงขึ้น ชาลีแทบจะหมดความอดทนต่อการยั่วเย้าที่กำลังเกิดอยู่ มือใหญ่โอบเอวเล็กรั้งให้ร่างกายแนบชิดกันมากขึ้น มองแววตาขี้อ้อนที่แฝงไปด้วยความยั่วยวน เขากดริมฝีปากจูบพระพาย สอดลิ้นเข้าตักตวงความหอมหวานที่แม้จะตักตวงเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ
ชาลีขยำเนื้อก้นของพระพายบีบอัดให้เสียดสีกับแท่งเหล็กที่สอดค้างอยู่ เหมือนกับว่าส่วนปลายของแท่งเหล็กนั่นจะไปสัมผัสเข้ากับจุดกระสันของพระพายพอดี คนตัวเล็กจึงร้องลั่นและข่มความเสียวด้วยการกัดเข้าที่คอของชาลีแรง ๆ จนโดนชาลีฟาดมือตีไปที่เนื้อก้นจนเป็นรอยแดง
ชายหนุ่มตัวโตยกยิ้มอย่างเหนือกว่า เขากดแท่งเหล็กย้ำไปยังจุดดังกล่าว จนพระพายบิดร่างกายเร่า ๆ ร้องครางออกมาไม่หยุด และขอร้องให้เขาเอามันออก
“อ๊ะ.. อ๊า ชาลี.. เอาออกไป เอามันออก”
“บอกให้เอาออก แต่คุณยังแอ่นสะโพกเข้าหามันอยู่เลย”
“เอาออกนะ..ล..แล้วเอาของคุณ.. เข้ามาแทน” พระพายมองชาลีด้วยสายตาเว้าวอน แต่ชาลีกลับหันหน้าหนีและมองไปทางอื่น
ริมฝีปากบางอ้ากว้างและกัดเข้าที่คอของชาลีอีกทีหนึ่ง แต่ก็แลกมาด้วยการโดนฟาดก้นแรง ๆ กลับ พระพายจับพวงหางนั่นและดึงมันออกจากก้นของเขา คว้าจับแกนกายของชาลีใส่เข้าในช่องทางของเขาด้วยตัวเองในท่านั่งคร่อมตักที่หันหลังให้ชาลี
ร่างเล็กออกแรงขย่มสะโพกบดขยี้แกนกายใหญ่ที่คับแน่นช่องทางจนชาลีครางอย่างพอใจ จับยึดเอวของพระพายแน่นและกระแทกกายสวนกลับขึ้นไปหนัก ๆ ให้คนตัวเล็กร้องครางลั่นออกมาด้วย ขาเรียวทั้งสองแยกกว้างออกคล้ายรูปตัวเอ็ม
พระพายเท้ามือค้ำไปที่หน้าขาของชาลี เขาพยายามหาที่ยึดมั่นร่างกายที่สั่นโคลงจากแรงกระแทก ส่วนชาลีก็กระแทกสวนขึ้นมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนพระพายจะขาดใจตายให้ได้เพราะมันทั้งเสียวและจุกในเวลาเดียวกัน
ความรู้สึกมันตีกันไปหมด แต่โดยรวมแล้ว คือ รู้สึกดี..
“พ..พระพาย” ชาลีเอ่ยเรียกชื่อคนรักของเขา
“อ๊ะ..อ๊า หือ”
“ผมรักคุณนะ รักมาก ๆ ด้วย” พูดจบก็กดริมฝีปากจูบที่หัวไหล่มนทีหนึ่งไล่ขึ้นมาจนถึงปลอกคอสีดำที่คนตัวเล็กสวมใส่
“ผมก็รักคุณ.. ชาลี อ๊า!
เพียงคำบอกรักที่ออกมาจากปากของพระพายก็ทำเอาชาลีกระแทกกายสวนขึ้นไม่ยั้ง เขาประคองร่างพระพายให้ใช้แขนยันกับพื้นเตียง ในท่าคุกเข่าแบบนี้ชาลีรู้สึกได้ว่าตัวเขาและพระพายจะหลอมรวมกันได้แนบแน่นยิ่งกว่าทุกท่วงท่า มือใหญ่บีบคลึงสะโพกผายยึดไว้เป็นหลักในการขยับกายตามอำเภอใจ และไม่สนว่าพระพายจะร้องดังแค่ไหน
ริมฝีปากบางอ้ากว้างร้องครางอย่างไม่เป็นภาษา พระพายคิดว่าตัวเขาเองน่าจะชินกับการมีสัมพันธ์แบบรุนแรงกับชาลีแล้ว ยิ่งแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกดี เขาไม่อาจปฏิเสธรสนิยมส่วนตัวเรื่องเซ็กซ์ของชาลีได้ และยอมให้ชาลีเล่นกับเขาด้วยของเล่นต่าง ๆ นานาที่ชาลีสะสมไว้ เพราะคำว่า รักเพียงคำเดียว



ตามไปอ่านต่อที่จอยลดานะจ้ะ #ชาลีติดลม




วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

CUT #ชาลีติดลม ตอนที่ 46 : ชาลีกับรถคันใหม่



      แนะนำให้ฟังเพลง stay up ไปด้วยจะฟินม้ากก (มั้ง)



พระพายมองไปที่ส่วนนั้นของชาลีทีไรก็ไม่ชินเลยสักครั้ง ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากของตัวเอง แล้วจึงขยับตัวข้ามช่วงคอนโซลรถไปที่นั่งลงตรงระหว่างขาของชาลี เพื่อบรรจงแตะริมฝีปากลงบนส่วนปลายของแกนกายขนาดใหญ่ตรงหน้า และครอบครองแกนกายขนาดใหญ่เข้าสู่โพรงปากนุ่ม
“อา..” ชาลีมองการกระทำของพระพายอย่างหลงใหล ริมฝีปากบางรั้งรูดตั้งแต่ส่วยปลายลงไปเกือบสุดโคน แรงดูดเพียงเล็กน้อยทำเอาชาลีแทบสะท้าน จนพระพายเริ่มดูดด้วยสัมผัสที่หนักขึ้น เมื่อถอนริมฝีปากก็มีเสียงราวกับดึงสิ่งของออกจากสุญญากาศ ก่อนจะครอบลงมาใหม่และใช้แนวฟันขาวครูดเพิ่มความเสียวกระสันให้คนตัวโต “อืม..พระพาย..”
มือใหญ่ขยุ้มกลุ่มผมสีน้ำตาลประกายทองของคนตัวเล็ก เชิดหน้าเกร็งจนเส้นเลือดขึ้นตามลำคอ ชาลีครางต่ำในลำคอยามที่พระพายตั้งใจแกล้งสัมผัสบริเวณส่วนหัวของมันโดยย้ำเป็นพิเศษ “พระพาย พ..พอก่อน” คนตัวเล็กยิ้มพรายแกล้งงับลำเนื้อเบา ๆ ก่อนจะแบมือยื่นไปหาคนตัวสูง โดยที่ชาลีตีสีหน้างงสวนกลับ
พอโดนชาลีทำหน้างงใส่ พระพายจึงพูดความต้องการของตัวเองออกมา “เอาถุงยางมาสิ อยากให้เลอะรถรึไง”
“ครับ” ชาลีหยิบซองถุงยางในที่เก็บของตรงกลาง ซองสีทองระยับสะท้อนกับแสงไฟรายทาง พระพายรับซองนั้นไว้ก่อนจะบรรจงฉีกออก และสวมให้ชาลีอย่างเบามือ
“saint laurent ยี่ห้ออะไรเนี่ย ทำไมไม่เห็นคุ้น” ดวงตาเรียวมองยี่ห้อถุงยางพร้อมตวัดกลับไปมองชายหนุ่มตรงหน้า
“ไม่ใช่ของไทยครับ”
“แพงล่ะสิ”
“ถ้าให้ผมบอก คุณคงจะฟาดผมไม่ยั้ง”
“รู้ว่ารวย แต่ใช้เงินให้มันประหยัดหน่อยสิ”
“ขอโทษครับ” พอโดนพระพายพูดด้วยน้ำเสียงเชิงดุใส่ ชาลีเป็นอันต้องรีบขอโทษออกมา ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้เกรงกลัวคนตัวเล็กถึงขนาดนี้ แต่พักหลังมาชาลีรู้สึกได้ว่าตัวเองใช้คำว่า ‘ขอโทษ’ เปลืองมาก แถมยังเชื่องเป็นแมวเลยด้วย หมดกันภาพลักษณ์แสนร้ายที่เคยสร้างมากับมือ
พระพายเริ่มปลดกระดุมกางเกงของตัวเองและถกร่นลงให้พ้นกาย ก่อนจะขยับตัวขึ้นไปนั่งคร่อมทับบนตักของคนตัวโตกว่า เพื่อเสียดสีเนื้อนุ่มนิ่มของตนกับลำเนื้อแข็งชัน ซึ่งเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ดิบของชาลีได้ดีเยี่ยม ชายหนุ่มส่งมือไปบีบก้นนิ่มนั้นไว้ ก่อนจะแกล้งสอดนิ้วเข้าไปทีเดียวสองนิ้วจนเสียงหวานร้องลั่น
ริมฝีปากอุ่นซุกไซ้ไปตามลำคอขาว ขบกัดสร้างรอยรักอย่างที่เคยทำเป็นประจำ จนทำให้พระพายส่งเสียงครางข้างใบหูของเขา ก่อนที่ริมฝีปากทั้งสองจะสัมผัสกันอีกครั้ง เรียวลิ้นชื้นเกี่ยวกระหวัดกันอย่างช่ำชอง มือใหญ่ของชาลียังคงทำหน้าที่ไม่หยุด เขาแกล้งสอดนิ้วเข้าไปเพิ่มอีกเติมเต็มช่องทางรักให้คับแน่นไม่มีช่องว่าง
มือเล็กจับแขนของชาลียั้งให้เอานิ้วแข็งออกจากช่องทางของเขา ชาลีก็ยอมทำตามแต่โดยดี เมื่อนิ้วทั้งสามออกไปแล้ว พระพายก็ยกสะโพกขึ้นคว้าจับแกนกายใหญ่สอดเข้ามายังโพรงเนื้ออุ่นนุ่มของตนแทน และขยับตัวให้ลำเนื้อแข็งเข้าสู่ด้านในจนสุดโคน
ท่อนแขนเล็กโอบรอบคอคนตัวโตไว้แน่น ก่อนจะยกสะโพกขึ้นสุดลงสุดเป็นจังหวะเนิบ ๆ แล้วจึงเริ่มเร่งขึ้นเมื่ออารมณ์ความรู้สึกในตัวทวีคูณขึ้นมา ส่วนชาลีก็เอนหลังพิงเบาะมองการกระทำของพระพายอย่างพออกพอใจ บ้างก็แกล้งกระแทกกายสวนขึ้นจนคนตัวเล็กร้องลั่นออกมา
“อ๊า! ชาลี อย่าแกล้งสิ” มือเล็กฟาดลงบนแผ่นอกกว้างจนเป็นรอยริ้วห้านิ้วชัดเจน
“ก็เมียแซ่บขนาดนี้ ใครจะอดใจได้” ชาลีโอบแขนรอบเอวพระพายเอาไว้ เขาเริ่มสนใจยอดถันสีสวยตรงหน้า มือใหญ่กดแผ่นหลังบางให้แอ่นตัวมาหาเขาเพื่อที่จะได้ลิ้มชิมรสหวานจากเม็ดทับทิมเล็ก ๆ บนอกขาวทั้งสองข้าง ลิ้นหนาไล่เลียและดูดจนมีเสียงออกมา ทำเอาใบหูเล็กเปลี่ยนสีด้วยความเขินอาย
คนตัวเล็กยังคงขยับสะโพกของตนไปเรื่อย ๆ จนชาลีเริ่มซี้ดปากเพราะรู้สึกว่าแกนกายตัวเองขยายขึ้นจนช่องทางนั้นรัดแน่น เขาเองก็กระแทกกายสวนกลับพระพายจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วรถประสานกับบทเพลงที่เปิดคลออยู่ มือใหญ่คว้าจับเอวบางไว้แน่นทำจังหวะขึ้นลงตามใจเจ้าตัว จนพระพายแทบไม่ต้องออกแรงอีก
“แรงอีก ช..ชาลี อ๊า..” พระพายร้องขอเมื่อตนรู้สึกสะท้านกับสัมผัสของชาลีจนเริ่มชิน
แกนกายใหญ่หลุดออกจากช่องทางรักหลายต่อหลายรอบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนหมดความต้องการลง ชาลีกับพระพายสลับกันจับเข้าที่เดิมทุกครั้งที่มันหลุด และกระแทกต่อด้วยแรงปรารถนาจนชาลีใกล้จะถึงจุดสุดยอดเต็มที
ร่างใหญ่กระตุกก่อนจะปลดปล่อยหยดหยาดแห่งความปรารถนาออกมาจนเต็มถุงยางที่ใส่อยู่ ในขณะที่ชาลีได้ปลดปล่อยความตึงคับของตัวเองแล้ว แต่พระพายยังคงทรมานอยู่อย่างนั้น มือใหญ่รั้งรูดแกนกายของคนตัวเล็กจนคนโดยสัมผัสครางกระเส่า แต่ชาลียังไม่ปล่อยให้พระพายได้ปลดปล่อยง่าย ๆ เขาทำให้พระพายมีอารมณ์จนสุดแต่กลับปล่อยมือออกไปให้อารมณ์ค้าง
“ฮื้ออ.. อย่าแกล้ง” ริมฝีปากอุ่นพรมจูบบริเวณไหปลาร้า ชาลียิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วประกบริมฝีปากทาบทับพระพายพร้อมกับพลิกตัวให้พระพายเป็นฝ่ายเอนนอนพิงเบาะของเขาแทน
คนอย่างชาลีเสร็จเพียงแค่ครั้งเดียวไม่เคยพอ เขาถอนกายออกถอดถุงยางมัดไว้ยัดใส่ในกล่องเตรียมทิ้งในภายหลัง และเสียดสีแกนกายไปกับเนื้อนิ่มของพระพายให้เกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะหยิบถุงยางชิ้นใหม่ขึ้นมาใส่
ชาลียกขาเรียวให้ขึ้นมาพาดบริเวณบ่าของตัวเอง แต่มือเล็กกลับแตะลอนกล้ามเนื้อหน้าท้องของคนตัวโตเป็นเชิงห้าม “ม..ไม่เอา”
“ไม่เอาอะไรครับ ผมอยากเอาจะแย่” ชาลียังพูดติดตลกตามเคย
“ไม่เอาท่านี้..ได้ไหม” ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงจัดด้วยความเขินอาย แม้จะอยู่ในเงามืดแต่ชาลีกลับมองเห็นได้ชัดเจน
“ทำไมครับ”
“ก็มัน..มัน”
“มันอะไร” ชาลีถามด้วยความสงสัย
“มันน่าอาย”
“แต่ผมชอบนะ” ชาลีโน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูด้วยถ้อยคำที่ทำให้โดนฟาดแรง ๆ ไปอีกทีหนึ่ง “มันลึกดี”
“ไอ้คนทะลึ่ง”
“แต่ก็ทะลึ่งแค่กับคุณนะ” ชาลียิ้ม ก่อนจะพูดต่อ “ขอทำได้ไหมครับ”
“อื้อ.. ผมเคยห้ามคุณได้รึไงเล่า” ใบหน้าขาวหันเบี่ยงหนีไปมองด้านข้างแทนที่จะมองหน้าคนขี้แกล้ง
“น่ารักจัง” ชายหนุ่มตัวโตหอมแก้มคนขี้เขินไปแรง ๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
เพลงบนรถยังคงบรรเลงต่อไป จนถึงเพลง stay up ของศิลปินเดี่ยวที่กำลังมาแรงในเกาหลีตอนนี้ ‘แบคฮยอน’ บทเพลงนี้มีความเซ็กซี่คล้อยตามไปกับน้ำเสียงของนักร้อง แถมเนื้อเพลงยังมีส่วนที่ทำให้ตีความเตลิดไปไกลเช่นกัน ดังเช่นท่อนที่กำลังเปิดอยู่ตอนนี้
~No sleep tonight We makin’ love Until the sun shines down on us
No sleep tonight We makin’ love Until the sun ~
ชาลีฟังเนื้อร้องของบทเพลงแล้วแอบลอบยิ้ม “คุณได้ยินท่อนเมื่อกี้ไหม”
“ท..ทำไม” พระพายเสียงสั่น ช่วงที่รถเงียบทำให้เขาได้ยินเนื้อเพลงทุกท่อน เขาเองก็แอบสะดุดกับท่อนดังกล่าวเหมือนกัน ได้แต่แอบหวังว่าชาลีจะไม่พูดอะไรแผลง ๆ ออกมา
“ผมแค่จะบอกว่าคืนนี้อยู่ยาวนะ ไหวป่—.. โอ้ย ๆ ” ชาลียังพูดไม่จบประโยคก็โดนฝ่ามือเล็กฟาดใส่ไม่ยั้ง
ชายหนุ่มใช้จังหวะนี้สอดแกนกายเข้าสู่ช่องทางของพระพายทันที แถมยังกระแทกใส่รัวแรงราวกับปืนกล จนรถหรูของเขาเริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย ประกอบกับเสียงหวานที่ร้องครางอย่างไม่เป็นภาษา
“ทะลึ่ง..ทะลึ่งที่สุดเลย ช..ชาลี อ๊ะ! อ..อ๊า อ๊ะ..” พระพายจับไหล่ของชาลีเอาไว้แน่น ขาเรียวที่ชี้ขึ้นสู่เพดานรถขยับสั่นไหวไปตามแรงกระแทก เป็นอย่างที่ชาลีบอกเขาจริง ๆ ตอนนี้พระพายกำลังจุกกับความลึกที่แล่นเข้าออกในร่างกายจนจะเป็นบ้า เริ่มจิกเล็บลงที่หัวไหล่ของชาลีระบายความเจ็บปนเสียวซ่าน
ชาลีโน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากบาง ส่งมือใหญ่ไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวแล้วรั้งรูดให้คนใต้ร่างทรมานเล่น ร่างกายช่วงล่างของชาลียังคงขยับต่อไปแบบไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยหรือผ่อนลง เขาปรับเบาะให้เอนลงไปอีกจนสุด แล้วกระแทกต่อด้วยอารมณ์ดิบที่มีในตัวจนเสร็จเป็นรอบที่สองจึงถอนกายออก
คนตัวเล็กบิดเร่าด้วยความทรมาน ทั้งที่คนทำกระแทกไม่ยั้งจนเสร็จไปตั้งสองรอบ ตัวเขาเองยังไม่ได้ปลดปล่อยแม้แต่รอบเดียว พระพายจึงจับแกนกายของตัวเองรั้งรูดตามแรงปรารถนา ในใจลึก ๆ ก็แอบโกรธชาลีเหมือนกัน ที่ไม่ยอมทำให้เขาเสร็จบ้าง เอาแต่ใจตัวเองคนเดียวสักแต่จะกระแทกอยู่นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจกับสัมผัสที่ได้รับเลย พระพายพอใจมาก แต่โกรธที่ตัวเองไม่เสร็จด้วยต่างหาก
คนขี้แกล้งเห็นดังนั้นจึงจับข้อมือเล็กทั้งสองกดลงข้างเบาะ แล้วเลื่อนตัวเขาลงไปด้านล่างเพื่อใช้ปากทำให้คนตัวเล็กหลอมละลายแทนการสัมผัสด้วยมือ พระพายกำมือแน่นแอ่นกายเข้าหาชาลี แผ่นอกขาวขยับตามจังหวะการหายใจ ริมฝีปากอุ่นทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมจนพระพายปลดปล่อยความทรมานออกมา และชาลีลิ้มรสชนิดที่ว่าไม่เหลือคราบ


ตามไปอ่านที่จอยลดากันค้าบ #ชาลีติดลม